ขั้นตอนการนำเค้กเข้าอบ ตามลักษณะของเนื้อเค้ก (วิธีการเตรียมพิมพ์ และการใส่ส่วนผสมลงพิมพ์) วิธีการนี้แม้ดูจะเป็นขั้นตอนที่ไม่สำคัญมาก แต่ก็เป็นอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เค้กขึ้นฟูได้สวยงาม แม้ดูจะไม่ใช่ขั้นตอนหลักแต่เป็นขั้นตอนแรกที่ต้องทำก่อนที่จะนำเค้กเข้าอบ เพราะถ้าเราไม่เตรียมพิมพ์อบก่อน แล้วเราตีเนื้อเค้กเสร็จแล้วด้วยความเป็นเค้ก ทุกอย่างจะต้องพร้อมทั้งหมดก่อนนำเข้าอบ
เพราะถ้าเรานำเค้กเข้าอบช้าสิ่งที่ได้หรือผลลัพธ์ที่ตามมาคือ ส่วนผสมยุบตัว และที่สำคัญคือ อุณหภูมิที่ใช้มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้แต่ละบ้านที่ใช้เตาแบบแตกต่างยี่ห้อกัน และเนื้อเค้กที่เราจะอบด้วย ก็ใช้อุณหภูมิที่แตกต่างกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับความชื้นของส่วนผสม ความเข้มข้นของเนื้อเค้ก และขนาดของพิมพ์อบที่เราใช้ เดี๋ยวเรามาดูกันว่าเนื้อเค้กแต่ละประเภทมีวิธีการเตรียมพิมพ์อย่างไรบ้าง?
Table of Contents
![](https://waressine.com/wp-content/uploads/2023/11/การอบเค้กและการเตรียมพิมพ์-1024x576.jpg)
การเตรียมพิมพ์ “บัตเตอร์เค้ก” มี 2 แบบ
- 1.ทาเนยขาวให้ทั่วพิมพ์ และรองก้นพิมพ์ด้วยกระดาษไข จากนั้นทาเนยขาวทับลงไปอีกครั้ง
- 2.ทาพิมพ์ด้วยเนยขาวให้ทั่ว และร่อนแป้งเค้กลงให้ทั่วพิมพ์ด้านใน แล้วจึงเคาะแป้งส่วนเกินออก ให้เหลือแป้งที่เคลือบพิมพ์ไว้บาง ๆ
วิธีการอบ “บัตเตอร์เค้ก”
- ให้ใส่ส่วนผสมลงพิมพ์อบใส่ประมาณ 1/2 ของพิมพ์ หรือ 2/3 ของพิมพ์ แล้วนำเข้าเตาอบทันที เพราะถ้าไม่นำเข้าอบทันทีจะทำให้ผงฟูและส่วนผสมอื่น ๆ สูญเสียก๊าซที่เกิดจากผงฟูค่อย ๆ หายไป ระหว่างรอเข้าเตาอบ ผลที่ได้คือ จะเกิดขึ้นหลักอบเค้กเสร็จ ทำให้เนื้อเค้กหยาบ ไม่ขึ้นฟูเบา
การเตรียมพิมพ์ “สปันจ์เค้ก” และ “ชิฟฟ่อนเค้ก” มีอะไรบ้าง?
- 1.พิมพ์ที่ใช้ต้องสะอาด แห้ง และไม่มีไขมันติดที่พิมพ์ ซึ่งคนทำเบเกอรี่จะรู้ดีว่าหลังจากที่อบขนมเสร็จแล้ว และล้างไม่สะอาดเราจะได้คราบมันที่แฝงมาหลังจากที่เราผึ่งให้แห้งสนิท เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องนี้แต่ป้องกันได้คือ นำพิมพ์ลวกน้ำร้อนก่อนที่จะล้างอุปกรณ์ หรือลวกน้ำร้อนก่อนนำไปเตรียมพิมพ์ก็ได้
- 2.พิมพ์ทรงกลม หรือทรงสี่เหลี่ยม ก็ให้รองด้วยกระดาษไขรองอบ ส่วนด้านข้างไม่ต้องทาเนยขาว เพราะจะทำให้ส่วนผสมหดตัว เสียรูปร่าง หลังจากที่อบสุกแล้ว
วิธีการอบ “สปันจ์เค้ก” และ “ชิฟฟ่อนเค้ก”
- การเทส่วนผสมใส่พิมพ์อบใส่ประมาณ 2/3 หรือ 3/4 ของพิมพ์ หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งเล็กน้อย เนื่องจากเค้กไข่จะขึ้นฟูเต็มพิมพ์หลังจากอบสุกแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า 2/3 และ 3/4 ของพิมพ์คือประมาณเท่าไหร่? ตวงยังไง?
- สำหรับ 2/3 ของพิมพ์ จะน้อยกว่า 3/4 ของพิมพ์ ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ หรือคิดแบบง่าย ๆ คือ 11 ช้อนโต๊ะ หรือ 160 มิลลิลิตร
- ส่วน 3/4 ของพิมพ์ คือ 1/2 + 1/4 ถ้วยตวง แต่หลัก ๆ ที่เราใช้บ่อย ๆ คือ 3/4 ถ้วย ซึ่งถ้าใครเจอสูตรที่อาจจะเป็นขนาดช้อนตวงก็ใช้วิธีการเดียวกัน
วิธีทดสอบความสุกของเค้ก
- เราจะตรวจเช็คยังไงว่าเค้กที่ทำนั้นสุกได้ที่พร้อมออกจากเตาแล้ว
- สำหรับสปันจ์เค้ก และชิฟฟ่อนเค้ก เหมือนกันคือใช้นิ้วแตะที่ผิวหน้าเค้กเบา ๆ ถ้ารอยนิ้วที่แตะถูกดันกลับขึ้นมาแสดงว่าเค้กสุกแล้ว
- สำหรับบัตเตอร์เค้กใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มลงตรงกลางของเค้ก และเมื่อดึงไม้ขึ้นมาถ้าไม่มีเศษเค้กติดกับไม้แสดงว่าเค้กสุก
การเตรียมพิมพ์ “ชีสเค้กแบบอบ” และเช็คความสุก
- วิธีเตรียมพิมพ์ส่วนใหญ่จะใช้พิมพ์ถอดก้นได้ และห่อด้วยกระดาษฟอยด์ แบบรองอบด้วยถาดอบแบบรองน้ำ และส่วนวิธีการดูว่าชีสเค้กสุกได้ที่หรือยังทำได้โดย แตะที่ผิวหน้าเค้กเบา ๆ หรือเขย่าพิมพ์อบเค้กเบา ๆ ถ้าเนื้อเค้กอยู่ตัวแล้วหรือเขย่าพิมพ์แล้วตรงกลางของเค้กกระเพื่อมเล็กน้อย แสดงว่าเค้กสุกได้ที่แล้วและสิ่งที่ไม่ควรทำสำหรับชีสเค้ก คือการใช้มีด หรือไม้ปลายแหลมจิ้มตรงกลางเค้ก เพราะตอนที่เราใช้ไม้หรือจิ้มลงไปตรงกลางทำให้เกิดรูตรงกลางเค้ก ผลที่ได้คือ ทำให้ชีสเค้กของเราหน้าแตกหักได้
และนี่คือวิธีอบเค้กและการเตรียมพิมพ์อบเค้กแต่ละชนิด ถ้าทุกคนชอบเนื้อแบบนี้และเป็นประโยชน์กับคุณเองด้วย สามารถกดติดที่เว็ปไซต์ของเรา หรือกดติดตามได้ทั้งช่องทาง YouTube หรือ Facebook และแชร์หากเนื้อหานี่เป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่กำลังฝึกหัดทำขนม และหากมีคำถามสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้จากช่องทางที่ครูทรายให้ไว้ได้เลยค่ะ หรือขอเข้าร่วมกลุ่มเรียนทำขนมได้ฟรี!!! ติดต่อได้ที่ช่องทางแฟนเพจได้เลยค่ะ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ คอร์สเรียน แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าอีกครั้งนะคะ