คุกกี้สิงคโปร์ทำไมถึงชื่อนี้ ทรายก็ไม่ทราบได้เช่นกัน เอาหละจะไปหาข้อมูลมาแปะไว้ให้นะคะ ว่าทำไมต้องชื่อ “คุกกี้สิงคโปร์” แต่ก่อนอื่นทรายอยากจะแนะนำเมนูนี้จาก….ความชอบส่วนตัวล้วน ๆ เลยค่ะ ครั้งแรกที่ได้สัมผัสคุกกี้สิงคโปร์ ทรายไม่เข้าใจว่าทำไมเนื้อสัมผัสถึงกรอบร่วน และละลายในปาก แถมยังมีรสชาติเค็ม ๆ ติดปาก ติดฟัน แล้วที่สำคัญยิ่งกินยิ่งเพลิน
จำความได้ว่าไม่รู้ได้ชิมเมนูนี้ครั้งแรกเมื่อไหร่ รู้แต่ว่ารสชาติติดใจมาก และเคยได้กินแบบมีกลิ่นหอมของควันเทียน ในสูตรนี้ทรายได้ประยุกต์สูตรเพิ่มเติมโดยการแต่งกลิ่นวานิลาเข้าไปนะคะ ปกติแล้วเมนูนี้ไม่ใส่กลิ่นวานิลาเลย แต่ทรายอยากให้กลิ่นวานิลาดับตัวแป้ง เนย และไข่ไก่ด้วย ทรายเลยเพิ่มเข้าไปนะคะ พร้อมแล้วเริ่มทำเมนูกันเลยดีกว่าค่ะ
ส่วนผสม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 650 กรัม
- ผงฟู 2 ช้อนชา
- เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
- เนยขาว 320 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 300 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
ส่วนผสม (หน้าคุกกี้)
- เม็ดมะม่วงฯ อบสุกประมาณ 50% 200 กรัม
- ไข่แดง 2 ฟอง
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- กลิ่นวานิลา 1 ช้อนชา
ขั้นตอนการเตรียม
- 1.ตีเนยขาว และเกลือป่นให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปทีละน้อยจนหมด ตีส่วนผสมจนขึ้นฟูเบา
- 2.ใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟอง ตีส่วนผสมให้เข้ากัน และแต่งกลิ่นวานิลา
- 3.ใส่แป้งและของแห้งที่เตรียมไว้ลงไป ใช้ความเร็วต่ำของเครื่องผสมให้เข้ากัน เตรียมนำไปขึ้นรูป
ขั้นตอนการขึ้นรูป
- 1.เตรียมส่วนผสมของแต่งหน้าคุกกี้สิงคโปร์ นำเม็ดมะม่วงฯ ไปอบให้สุกก่อนประมาณ 50% จากนั้นพักทิ้งไว้ให้เย็นสนิท
- 2.ผสมไข่แดง กับกลิ่นวานิลา และน้ำมันพืช คนส่วนผสมให้เข้ากันพักไว้
- 3.นำคุกกี้สิงคโปร์มาขึ้นรูป โดยการคลึงแป้งบนกระดาษไขรองอบ ให้ความหนาประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร แล้วแต่ความชอบ จากนั้นใช้ที่กดคุกกี้เป็นรูปทรงกลม (หรือรูปที่ชอบ) วางลงบนถาดอบที่เตรียมไว้ กดจนแป้งคุกกี้สิงคโปร์จนหมด
- 4.หลังจากนั้นทาหน้าคุกกี้ด้วยไข่แดงที่เตรียมไว้ และวางด้วยเม็ดมะม่วงฯ ลงไป จากนั้น นำไปเข้าเตาอบ
ขั้นตอนการอบ
- 1.นำคุกกี้สิงคโปร์เข้าอบที่อุณหภูมิ 160 องศาเซลเซียส ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที หรือจนกว่าคุกกี้จะสุกเหลือง
- 2.เมื่อคุกกี้สิงคโปร์สุกแล้วให้นำออกจากถาดอบ และพักคุกกี้สิงคโปร์ไว้บนตะแกรงพักขนม ให้เย็นสนิทก่อนนำไปเก็บใส่บรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้
Tip:
- เพิ่มความหอมให้กับคุกกี้สิงคโปร์ได้ ด้วยการอบควันเทียน
- ปรับแต่งรสชาติที่ชอบเพิ่มเติมได้ เช่น เผือก,ช็อกโกแลต,ชาเขียวมัทฉะ,กาแฟ
- การอบถั่ว หรือธัญพืชให้สุกก่อน 50% ของความสุกทั้งหมด จะช่วยไล่ความชื้นออกจากถั่ว หรือธัญพืช และยังช่วยให้มีกลิ่นหอมมากขึ้น
คำถามหลังอบ:
1.ไม่อยากใช้เนยขาวในการทำคุกกี้สิงคโปร์ สามารถใช้ไขมันชนิดไหนแทนได้บ้าง?
- สามารถใช้เนยสด หรือน้ำมันพืชก็ได้ แต่แนะนำว่าควรใช้ร่วมกัน แต่อาจจะเน้นหนักที่เนยสด หรือน้ำมันพืชก็ได้ เนื่องจากเนยขาวมีคุณสมบัติในการเป็นครีมที่สูง จะส่งผลให้เนื้อสัมผัสของคุกกี้สิงคโปร์มีความกรอบร่วนมากขึ้น การใช้เนยสด และเนยขาวผสมกัน แต่ใช้อัตราส่วนของเนยสดมากกว่าเนยขาว ก็จะช่วยให้คุกกี้กลิ่นหอมที่มากขึ้น แต่ปริมาณที่ได้อาจจะไม่ได้เยอะเท่ากับการใช้เนยขาวล้วน ๆ
2.กังวลว่าเนยขาวจะเป็นไขมันทรานจึงอยากหลีกเลี่ยงไขมันประเภทนี้?
- แน่นอนว่าหลายคนรู้สึกกังวลกับไขมันทราย แต่ตอนนี้มีการควบคุมเรื่องนี้อย่างชัดเจน หรือถ้าเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะไม่มีเนยขาวเจือปนในสูตรเลย สามารถเลือกใช้น้ำมันรำข้าว,น้ำมันคาโนล่า แทนการใช้เนยขาวก็สามารถทำได้ เนื้อสัมผัสของคุกกี้หลังอบที่ได้ก็ให้ความกรอบร่วนเช่นกัน
สามารถอัพเดตเมนูใหม่ ๆ ได้ทุกวันพุธ และวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไปได้ที่ช่องทาง YouTube และติดตามข่าวสารโปรโมชั่นอย่างใกล้ชิดได้ที่ Facebook หรือหากต้องการออเดอร์ขนมโฮมเมด ชุดทำเบเกอรี่ด้วยตัวเองที่บ้างสามารถดูได้ที่เพจ wares sine shop หรืออยากเริ่มลงมือทำขนมอบอย่างจริงจัง ไม่อยากทดลองสูตรด้วยตัวเองสามารถเลือกเมนูที่ต้องการเรียนได้ที่ คอร์สเรียน และจองห้องเรียนได้ที่ Line แล้วพบกันในครั้งหน้านะคะ