Menu Close

คุกกี้รูปหัวใจ – Mini heart Cookie

คุกกี้รูปหัวใจที่ทรายอยากจะแบ่งปันให้กับเพื่อน ๆ ทุกคน ทำเป็นของขวัญของฝากให้กับคนรู้ใจ เมนูนี้ขั้นตอนการทำอาจจะยุ่งยากนิดหน่อยนะคะ เนื่องจากเป็นคุกกี้ที่ทำแบบต้องแช่เย็น และใช้เวลากว่าจะให้คุกกี้แข็งตัว หรือเซตตัวได้ดี ก่อนที่จะนำมาเข้าอบ สำหรับคุกกี้รูปหัวใจนี้เป็นคุกกี้ที่จัดอยู่ในประเภทคุกกี้แช่เย็นค่ะ

หมายความว่า เราต้องเตรียมส่วนผสมของแป้งคุกกี้ให้เรียบร้อย จากนั้นนำไปแช่เย็นก่อนจะนำมาขึ้นรูป และต้องทำให้คุกกี้เซตตัวอีกครั้ง ก่อนจะนำมาตัดเป็นชิ้น ๆ วางบนถาดแล้วนำเข้าอบค่ะ ลองทำเมนูนี้ให้กับคนที่คุณรักดูนะคะ เขาต้องประทับใจแน่นอนค่ะ

ส่วนผสม

  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 400 กรัม
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • เนยสด 227 กรัม
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายป่น 200 กรัม
  • ไข่ไก่ 1 ฟอง
  • กลิ่นวานิลานม-เนยครีม 1 ช้อนชา
  • สีผสมอาหารสีชมพู 2 ml.

ขั้นตอนการผสม

  • 1.ตีเนยสด เกลือป่น ให้อ่อนตัวจนเป็นสีเหลืองอ่อน และขึ้นฟู
  • 2.ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ตีจนได้ลักษณะเป็นครีมที่นุ่ม ฟู และเบา
  • 3.ใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟอง ใส่ให้ครบทีละฟองตามที่สูตรระบุไว้ ตีส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นจึงแต่งกลิ่นหอม
  • 4.แบ่งส่วนผสมของแป้งและของแห้งทั้งหมด 2-3 ส่วน ค่อย ๆ ใส่ลงไปในส่วนผสมของครีมที่ตีเสร็จแล้ว ใส่ครบจนแป้งหมด (แต่ไม่ตะล่อมส่วนผสมนาน)
  • 5.แบ่งแป้งที่ผสมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออกมาไว้สำหรับผสมสีชมพูประมาณ 150-200 กรัม แล้วนำมาผสมสีชมพูให้เข้ากัน แล้วพักส่วนผสมไว้

ขั้นตอนการขึ้นรูป

  • 1.นำแป้งคุกกี้วานิลา มาคลึงบนกระดาษไขให้เป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ให้มีความหนาของแป้งคุกกี้ประมาณ 0.5 เซนติเมตร จากนั้นใช้ฟิล์มถนอมอาหารคลุมไว้ แล้วนำไปวางบนถาดสี่เหลี่ยม จากนั้นนำเข้าตู้เย็นแช่เย็นไว้ประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง และสำหรับแป้งสีชมพูก็ทำเช่นเดียวกับแป้งวานิลา
  • 2.หลังจากครบตามเวลาแล้ว ให้นำแป้งสีชมพูออกมา จากนั้นใช้ที่กดคุกกี้แบบพิมพ์วงแหวนรูปหัวใจ กดแป้งสีชมพูให้เป็นรูปหัวใจ ทำจนแป้งหมด แล้ววางตัวแป้งคุกกี้ให้ซ้อนกัน โดยเลือกมุมใดมุมนึงไว้เป็นฐานวางแล้วพักไว้ หรือใช้ฟิล์มถนอมอาหารคลุมไว้ แล้วนำไปพักในตู้เย็นให้เซตตัวก่อนก็ได้
  • 3.นำแป้งวานิลาออกมาคลายความเย็นสักครู่ เช็คดูว่าแป้งได้ความบางที่ต้องการแล้วหรือยัง เมื่อแป้งคลายตัวแล้วให้นำแป้งสีชมพูที่กดเป็นรูปหัวใจ วางลงไปตรงกลายของแป้งวานิลา แล้วม้วนเป็นวงกลมโดยมีแป้งสีชมพูอยู่ด้านใน และแป้งวานิลาห่อรูปหัวใจไว้ด้านนอก
  • 4.เมื่อทำเสร็จแล้ว ให้นำแป้งกลับเข้าไปแช่เย็นอีกประมาณ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ก่อนนำออกมาตัดเป็นชิ้นสำหรับเตรียมเข้าไปอบ

ขั้นตอนการอบ

  • 1.นำแป้งคุกกี้ที่ขึ้นรูปเสร็จแล้ว นำมาตัดเป็นชิ้นให้เท่านกัน ความหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร หรือบางกว่านั้น (ขึ้นอยู่กับความชอบ)
  • 2.เรียงคุกกี้บนถาดอบที่ทาเนยขาวไว้บาง ๆ หรือปูด้วยกระดาษไขรองอบ และเว้นระยะห่างต่อชิ้น 1 นิ้ว เพื่อป้องกันคุกกี้ขยายตัวระหว่างอบ ไม่ให้คุกกี้ติดกัน
  • 3.นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบประมาณ 20-25 นาที หรือจนกว่าคุกกี้จะสุก
  • 4.เมื่อคุกกี้สุกแล้ว ให้แซะออกจากถาดอบ แล้วนำไปพักไว้บนตะแกรงพักขนม จนเย็นสนิท ก่อนจะนำไปใส่ในบรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้

Tip:

  • 1.ขั้นตอนการผสมแป้งคุกกี้สุดท้าย คือการใส่แป้งและของแห้งทั้งหมด ต้องระวังไม่ตะล่อมส่วนผสมนาน เพราะจะทำให้คุกกี้หลังอบมีเนื้อแข็ง เหนียว ไม่กรอบร่วน ผสมพอเข้ากันสำหรับแป้งคุกกี้รสวานิลา ส่วนแป้งที่ผสมสีเพิ่มก็ทำเช่นเดียวกัน ไม่ผสมนานเกินไป แต่ให้เผื่อระยะที่พอดีสำหรับการผสมสีให้เข้ากัน
  • 2.คุกกี้ชนิดนี้จะมีความอ่อนตัวเร็วหลังจากนำออกจากตู้เย็น ดังนั้น ต้องวางแผนการทำงานเพื่อให้คุกกี้ยังมีความแข็งตัว เพื่อจะกดรูปร่างได้ง่าย และเนื้อคุกกี้ไม่เละก่อนอบ

คำถามที่พบบ่อย:

1.ใช้มาการีนแทนเนยสดได้ไหม?

  • ใช้ได้ค่ะ แต่แนะนำถ้าทำได้ควรใช้เนยสดในการทำขนมมากกว่า เนื่องจากให้กลิ่น รสของเนยที่เด่นชัดมากกว่า สำหรับการใช้มาการีนนั้น ส่วนใหญ่จะใช้ในเชิงธุรกิจเบเกอรี่เพื่อลดต้นทุนการผลิต แต่รสชาติและกลิ่นหอมนั้นอาจทำได้ไม่ดีเท่ากับการใช้เนยสด หรือจะใช้เนยสด 90% และมาการีน 10% ก็ได้ เพื่อช่วยเรื่องของความคงตัว ไม่ต้องกังวลว่าคุกกี้จะนิ่มก่อนขึ้นรูปร่าง เพราะมาการีนจะอยู่ที่อุณหภูมิห้องได้ดีกว่าเนยสดอยู่แล้ว จึงช่วยยืดระยะเวลาในการขึ้นรูปของคุกกี้ให้นานขึ้นได้

2.ทำไมต้องใส่น้ำตาลทีละน้อยจนหมด ลงในขั้นตอนการตีครีม?

  • ขั้นตอนการผสมทั้งคุกกี้ เค้ก หรือบัตเตอร์ครีม การใส่ส่วนผสมลงไปทีละน้อย ๆ แต่ใส่ต่อเนื่องในระหว่างการผสม จะช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีมากกว่า การใส่ส่วนผสมครั้งเดียวจนหมด นอกจากนั้นการละลายของน้ำตาล ก็จะช่วยให้ส่วนผสมจับตัวกันได้ดี และไม่เป็นก้อนน้ำตาล หลังจากที่ผสมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว

3.ทำไมต้องใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟอง?

  • กรณีนี้เช่นเดียวกับเรื่องการใส่น้ำตาลลงไปในส่วนผสม ไข่ไก่มีองค์ประกอบของน้ำด้วย ดังนั้น เพื่อการผสมน้ำให้เข้ากับไขมัน หรือน้ำมันเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก หากไม่มีสารเสริมอิมัลซิไฟเออร์ที่ช่วยให้น้ำรวมตัวกับน้ำมัน หรือไขมันได้ดี ดังนั้น การใส่ไข่ไก่ลงไปทีละฟองในขั้นตอนการทำคุกกี้ หรือเค้ก ก็จะช่วยเพิ่มเวลาผสมของน้ำและไขมันจับตัวและเข้ากันได้ดี ดีกว่าใส่ไข่ไก่รวดเดียวจนหมด เพราะวิธีนั้นจะทำให้ส่วนผสมของไขมันและน้ำแยกออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด
  • นอกจากนั้นทำให้การตีส่วนผสมใช้ระยะเวลานานขึ้น ความเร็วในการผสมเร็วขึ้น ส่งผลให้เนื้อขนมหลังอบมีความแข็งกระด้าง เนื้อหยาบ ซึ่งไม่ใช่ลักษณะที่ดีของผลิตภัณฑ์สุดท้ายของงานขนมอบ

ติดตามและอัพเดตเมนูใหม่ ๆ กับทรายได้ที่ช่อง YouTube ตั้งแต่เวลา 18.17 น.เป็นต้นไป และยังมีรายการอื่น ๆ ที่จะสลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละช่วงเวลาที่ออกอากาศนะคะ ติดตามความเคลื่อนไหวแบบอัพเดตสุด ๆ พร้อมกับไอเท็มที่จะแนะนำวัตถุอุปกรณ์เบเกอรี่ได้ที่ Facebook สำหรับใครที่สนใจเรียนทำขนมสามารถดูรายละเอียด คอร์สเรียน ได้ที่หน้าเว็ปไซต์ได้เลยจ้า แล้วพบกันใหม่กับเมนูถัดไปนะคะ

Related Posts

Leave a Reply